ในขณะที่เทรนด์การสร้างหนังสไตล์ whodunit ยังคงเวิร์กอยู่ต่อไปในยุคสมัยนี้ ใคร ๆ ก็นิยมหาความบันเทิงแฝงด้วยปริศนาสนุก ๆ กันออกมา ฝั่งญี่ปุ่นก็ไม่น้อยหน้า ก็ได้ฤกษ์หยิบเอาไว้นิยายแฟนตาซีมาขึ้นจอ กลายมาเป็นหนังแฟนตาซีแนวสืบสวนสอบสวนใน “Once Upon a Crime (2023) กาลครั้งหนึ่งกับคดีปริศนา” ที่เป็นการขมวดปมปริศนาลึกลับกับการไขคดีเข้ากับโลกเทพนิยายได้อย่างฟุ้งเฟ้อเหมาะสมตามสไตล์ความญี่ปุ๊น..ญี่ปุ่น
Once Upon a Crime (2023) กาลครั้งหนึ่งกับคดีปริศนา เล่าเรื่องราวในโลกเทพนิยายระหว่างที่ซินเดอเรลลาได้เข้าร่วมงานเลี้ยงเต้นรำกับเหล่าราชวงศ์อันทรงเกียรติ ปรากฏว่าเธอกับหนูน้อยหมวกแดงได้เข้าไปพัวพันกับวังวนปริศนาเข้า ทำให้พวกเธอต้องใช้ไหวพริบปฏิภาณในการไขความกระจ่างและสืบเสาะหาความจริงที่ซ่อนอยู่ ก่อนที่เสียงระฆังจะดังขึ้น…บอกเวลาเที่ยงคืน
หนังดัดแปลงสร้างมาจากนิยายขายดีของ “อาอิโตะ อาโอะยากิ” ที่เคยตีพิมพ์ในปี 2020 โดยได้ผู้กำกับชื่อดัง “ยูอิจิ ฟูกุดะ” จากหนัง Gintama มารับหน้าที่ดูแลงานสร้าง และร่วมดัดแปลงเขียนบทหนังกับ “”ทัตสึโอะ คามาตะ” ที่พวกเขาเคยร่วมงานด้วยกันมาแล้วจาก Black Night Parade นั่นเอง ต้องยอมรับว่าบทประพันธ์ต้นฉบับของหนังค่อนข้างมีโครงสร้างที่แข็งแรง แม้ว่าจะเป็นการยำแล้วยำซ้ำ ดัดแปลงมาหลายทอดก็ตามที
การหยิบเอาเรื่องราวในเทพนิยายมายำและปรุงแต่งเป็นจานใหม่ ถือว่าเป็นการหยิบยืมท้องเรื่องที่ชาญฉลาด นำเอาเรื่องที่คนทั่วโลกรู้จักเป็นอย่างดีแล้ว มาพ่วงใส่กับประเด็นสืบสวนสอบสวน สืบหาว่าใครเป็นคนทำ แน่นอนว่าเรื่องสไตล์ whodunit เป็นอะไรที่สามารถดึงดูดความสนใจให้กับคนดูได้เป็นอย่างดี หากนำมาผูกเรื่องและปมปริศนาได้อย่างน่าสนใจ และดูเหมือนว่า Once Upon a Crime ก็ถ่ายทอดออกมาใช้ได้อยู่
แม้ว่างานโปรดักชั่นต่าง ๆ จะเต็มไปด้วยความเป็นญี่ปุ๊น..ญี่ปุ่นทุกระเบียบนิ้ว ทั้งฉาก ทั้งแสง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม บ่งชี้ถึงความเป็นงานสร้างฉบับญี่ปุ่นโดยแท้ ที่แน่นอนว่าโปรดักชั่นของญี่ปุ่นก็ทำออกมาได้พอถึงแก่นอยู่ ยิ่งได้มาอยู่ในหมวดหนังแฟนตาซี ต้องถือว่าทีมผู้สร้างจัดจ้านและมีฝีมือถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างประพอใจ
หากคุณเป็นแฟนหนังญี่ปุ่น หรือเป็นคออนิเมะ-มังงะอยู่แล้ว Once Upon a Crime ก็น่าจะเป็นหนังสืบสวนสอบที่ใส่จังหวะโบ๊ะบ๊ะแบบการ์ตูนออกมาได้กำลังกลมกล่อมดูอยู่ ถึงมันจะยังมีหลาย ๆ จุดในหนังที่ยังเว้าโหว่อยู่ก็ตาม หลายมุมก็ยังทำออกมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ โดยที่ความคมคายของบทหนังและการเล่าเรื่องก็ยังไม่สุดเท่าที่ควร แต่ก็ยังสร้างความบันเทิงให้กับคนดูได้ตลอดทาง
“คันนะ ฮาชิโมโตะ” ถือว่าเป็นตัวละครหลักในการนำทางหนังเรื่องนี้ไปตลอดทั้งเรื่อง เสน่ห์ของเธอช่วยทำให้หนังน่าสนใจได้ดีขึ้น แม้ว่าจะอยู่บนพื้นฐานของตัวละครในเทพนิยาย แต่เธอก็ถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาได้ในรูปแบบของเธอเอง กลายเป็นเหมือนยอดสืบหนูน้อยหมวกแดง ที่อาจจะยังไม่คมคายที่สุด และก็สร้างเอกลักษณ์ให้กับตัวละครนี้ได้น่าสนใจ
ขณะที่ทีมนักแสดงสมทบ “ยูโกะ อาระกิ”, “ทากะโนริ อิวาตะ” หรือ “ทัตโยจิ มูโระ” ก็เข้ามาสร้างสีสันให้กับเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี ถือว่ามอบการแสดงชนิดที่เล่นใหญ่รัชดาลัยสมฐานะดี เพราะแอคติ้งที่เวอวังแบบนี้นี่แหละที่เหมาะเจาะกับหนังเรื่องนี้ และแคสติ้งเรื่องนี้ก็จัดเต็มกับการเล่นใหญ่ให้แบบไม่มีลิมิต มันเกือบจะกลายเป็นลิเกฉบับญี่ปุ่นไปแล้ว…อีกนิดเดียวจริง ๆ
สรุปในภาพรวมแล้ว ก็ถือว่า Once Upon a Crime เป็นหนังแฟนตาซีสืบสวนสอบสวนที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจดี ถึงแม้ว่าจะยังไม่ค่อยคมคายและช่องโหว่อยู่เต็มไปหมดก็ตาม แต่หนังสูตรสำเร็จของหนังสไตล์นี้ก็ทำออกมาให้สนุกได้ไม่ยาก อีกทั้งเป็นการปูทางเอาไว้ที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะสร้างเป็นแฟรนไชส์ได้อยู่ หากจะทำภาคต่อและคดีใหม่ตามออกมา ก็คิดว่ายังเหลือวัตถุดิบอีกเพียบเอาไว้ในเสกสรรต่อไป
เรื่องราวจะเป็นอย่างไร สามารถรับชม หนัง Once Upon a Crime (2023) กาลครั้งหนึ่งกับคดีปริศนา ได้เลยที่นี่ครับ
ตัวอย่างหนัง Once Upon a Crime (2023) กาลครั้งหนึ่งกับคดีปริศนา
